นครศรีธรรมราช – คลื่นกัดเซาะชายฝั่งหัวไทรต่อเนื่อง ชาวบ้านเชื่อต้นตอเขื่อนกันคลื่นโครงสร้างแข็งทำนิเวศน์เปลี่ยน
สภาพความเสียหายพื้นที่บริเวณชายหาดบ้านโพธิ์ทะเลงาม หมู่ที่ 5 ตำบลหน้าสตน อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช คลื่นลมรุนแรงตามอิทธิพลหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงในอ่าวไทย ทำให้คลื่นสูง น้ำทะเลหนุนเข้ากัดเซาะชายฝั่งอย่างรุนแรง ตามการขึ้นลงของระดับน้ำทะเลอย่างต่อเนื่อง
ส่งผลให้พื้นที่ย่านนี้มากกว่า 350 เมตร ซึ่งเป็นแนวที่มีชุมชนชาวบ้านกว่า 20 หลังคาเรือนอาศัยหนาแน่นกำลังได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง คลื่นกัดเซาะเป็นโพรงลึกเข้าไปใต้ฐานบ้าน ขณะที่สวนมะพร้าวถูกคลื่นซัดกัดเซาะล้มหายไปในทะเลนับน้อยต้นตลอดแนว ที่ดินกรรมสิทธิ์ของชาวบ้านถูกกัดเซาะลึกเข้ามาตั้งแต่ 30-70 เมตร รวมพื้นที่ดินตลอดแนวมากกว่า 15 ไร่บางรายถือกรรมสิทธิ์ที่ดินเพียง 2 ไร่เศษกลับสูญเสียจากการกัดเซาะไปแล้วกว่าครึ่ง
นางอำนวย จรัญสุข อายุ 65 ปี ระบุว่าปรากฎการณ์กัดเซาะอย่างแรงเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนตลอดที่อาศัยอยู่ที่นี่ตั้งแต่จำความได้ สังเกตได้ชัดว่าสาเหตุนั้นมาจากการสร้างแนวหินกันคลื่นที่ติดกับจุดเริ่มต้นของการกัดเซาะพื้นดิน เริ่มตั้งแต่จุดสิ้นสุดของแนวหินแล้วเกิดปรากฏการณ์เช่นนี้ไปเรื่อยๆ
กระแสน้ำเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงจากคลื่นซัดเข้าฝั่งธรรมดาตามธรรมชาติกลายเป็นคลื่นหมุนม้วนกวาดทรายลงไปในทะเลอย่างต่อเนื่อง กระแสการไหลของน้ำเปลี่ยนแปลงอย่างมากเมื่อสร้างแนวหินแบบนี้เชื่อว่าทางการต้องแก้ไขด้วยการสร้างเช่นนี้ต่อไปไม่รู้จบเนื่องจากเห็นได้ชัดว่าสร้างที่หนึ่ง จะไปก่อปัญหาในอีกที่หนึ่งและต้องทำไปเรื่อยๆ
วันเดียวกันชาวบ้านได้รวมตัวกันจำนวนหนึ่งเดินทางไปยังสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อร้องเรียนผลกระทบที่เกิดขึ้นเนื่องจากโครงการก่อสร้างของกรมโยธาธิการและผังเมือง แต่ได้รับคำตอบว่าไม่มีงบสำหรับก่อสร้างเพิ่มเติมแล้ว
ขณะที่นายพงศ์เทพ ไข่มุก รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าติดตามสถานการณ์ และท้ายที่สุดได้ขอให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช จัดสรรงบประมาณเร่งด่วนเพื่อก่อสร้างแนวหินทิ้งต่อจากโครงการของกรมโยธาธิการอีก 300 เมตรเพื่อป้องกันพื้นที่ของชาวบ้านแล้ว
สายลุยเตรียมพร้อมก่อนไป “เดินป่า” อ่านจบรู้เรื่อง