จากกรณีที่ผู้ใช้โซเชียลมีเดียได้ทำการโพสต์คลิปผ่านเฟซบุ๊กในลักษณะมีผู้ขับรถเก๋งขับรถชนตำรวจใจเด็ด โดยมี ด.ต.มลตรี นิติชัย ผบ.หมู่ (จร) สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เกาะฝากระโปรงไกลเกือบ 2 กิโลเมตร เหตุเกิดในท้องที่ สภ.ท่าศาลา ภ.จว.นครศรีธรรมราช
(23 เม.ย.) ทางด้าน พ.ต.อ.อนันต์ หริกจันทร์ ผกก. สภ.ท่าศาลา ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสอบสวนสืบสวนติดตามจับกุมตัวคนชัยรถยนต์เก๋งสีเหลืองคันดังกล่าวมาลงโทษให้ได้โดยเร็วที่สุด เนื่องจากคนร้ายได้กระทำการอุกอาจ และเป็นที่ต้องสงสัยอย่างมากว่าภายในรถยนต์เก๋งมียาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมายอย่างแน่นอน ซึ่งทางชุดสืบสวน และตำรวจสายตรวจ สภ.ท่าศาลา ได้เร่งตามหาตัวคนขับรถยนต์เก๋งมหาภัยรายดังกล่าวโดยตรวจดูกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่ารถเก๋งคันดังกล่าวจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนี นำมาให้พนักงานสอบสวนประกอบเป็นหลักฐานสำคัญคาดว่าจะสามารถเสนอขอหมายจับจากศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชและติดตามจับกุมตัวได้ในวันสองวันนี้อย่างแน่นอน
ล่าสุดเมื่อเวลา 18.00 น.วันเดียวกันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับรายงานว่ารถเก๋งคันก่อเหตุจอดซ่อนไว้ในสวนมังคุด ท้องที่หมู่ 2 ต.กะหรอ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าศาลา จึงประสานสายตรวจประจำตำบลกะหรอ อ.นบพิตำ เดินทางไปตรวจสอบพบรถเก๋งคันดังกล่าว และต่อมามีนายพงศกร หนูเรือง อายุ 29 ปี ภูมิลำเนาอยู่ อ.กันตัง จ.ตรัง และตนเป็นเจ้าของรถ และยอมรับว่าเป็นคนขับรถเก๋งชน ด.ต.มลตรี และขับหลบหนีโดยมีร่างของ ด.ต.มลตรี เกาะบนฝากระโปรงรถไประยะทาง 2 กม.หลังเกิดเหตุได้ขับรถเก๋งคันดังกล่าวมาซ่อนไว้ในสวนมังคุดในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายพงศพร พร้อมรถยนต์เก๋งมาที่ สภ.ท่าศาลา เพื่อสอบสวนดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมาย
จากการสอบสวนนายพงศพร ให้การว่ามาได้แฟนสาวอยู่ที่หมู่ 2 ต.กะหรอ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช โดยตามปกติตัวเองพร้อมแฟนสาวจะทำงานที่ จ.ภูเก็ต ในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดได้กลบมาอยู่บ้านแฟนสาว ในวันเกิดเหตุขับรถเก๋งคันดังกล่าวไปเที่ยวในตลาดท่าศาลา และเกิดขับไปชนท้ายรถ จยย.ของตำรวจจราจร แต่เนื่องจากตนตกใจเกรงจะถูกจับเพราะในรถมีน้ำต้มพืชกระท่อมอยู่ 1 ขวด จึงตัดสินใจขับหลบหนี แต่ตำรวจจราจรยืนขวางหน้ารถจึงดันชนจนร่างติดบนฝากระโปรงขับหลบหนีไปเป็นระยะทางยาวดังกล่าว
ในเบื้องต้นนอกจากแจ้งข้อหาความผิด ตาม พ.ร.บ.พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 78 และมาตรา 160 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000 บาทถึง 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แล้วทางพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานแจ้งข้อหา พ.ร.บ.ยาเสพติด และอาจจะแจ้งข้อหาท้ายร่างกายและพยายามฆ่าอีกด้วย
โดยในช่วงค่ำวันเดียวกันนี้ (23 เม.ย.) พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช จะเดินทางมาแถลงข่าวการจับกุมนายพงศกร ด้วยคตัวเองอีกครั้งหนึ่ง
ที่มา | นครนิวส์ออนไลน์ ทันข่าวทันเหตุการณ์
สายลุยเตรียมพร้อมก่อนไป “เดินป่า” อ่านจบรู้เรื่อง