นครศรีธรรมราช – คณะกรรมการโรคระบาดนครศรีธรรมราช เตรียมรายงาน ครม.จ่อผ่อนคลาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หลังไม่พบผู้ป่วยเพิ่มกว่า 10 วัน ขณะที่แพทย์กังวล นร.ไทยติดเชื้อจากปากีสถานรักษาตัว 21 วัน ยังพบเชื้อในร่างกายต่อเนื่อง คาดสัปดาห์หน้าอาจจะไม่พบเชื้อ
วันนี้ (22 เม.ย.) นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมโรคระบาดนครศรีธรรมราช ได้เรียกประชุมคณะกรรมการเพื่อสรุปแผนงานในการเตรียมการรายงานต่อ ครม.ให้ทันภายในเดือนเมษายน 2563 เพื่อทำการผ่อนคลายมาตรการด้านต่างๆ ในการควบคุมโรคระบาดโควิด-19 หลังจากที่นครศรีธรรมราช ไม่พบมีรายงานมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นตลอดกว่า 10 วันที่ผ่านมา
โดยยังคงมีตัวเลขผู้ป่วยสะสมที่ 12 ราย หายป่วยกลับบ้านแล้ว 6 ราย เสียชีวิต 1 ราย รักษาตัวที่ รพ.มหาราช 3 ราย ที่ รพ.ทุ่งสง 2 ราย โดย นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ให้ความสนใจในการรักษาผู้ป่วยที่ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลทั้ง 5 ราย ว่าหากไม่มีปัจจัยแทรกซ้อนใดๆ ผู้ป่วยโควิด-19 ที่นครศรีธรรมราช จะต้องกลับบ้านได้ภายในสิ้นเดือนเมษายน
นายแพทย์ปิยะ มงคลวงศ์โรจน์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ได้แสดงความกังวลว่าผู้ป่วยกรณีนักศึกษาไทยจากปากีสถานเป็นรายที่ 3 ของนครศรีธรรมราช ที่เข้ารักษาตัวได้เข้ารักษาตัวเป็นวันที่ 21 แล้วยังตรวจสอบพบเชื้อในร่างกาย คาดว่าน่าจะสัปดาห์หน้าอาจจะไม่พบเชื้อ อย่างไรก็ตาม จะต้องไปกักตัวต่อที่บ้านอีกอย่างน้อย 9 วัน ซึ่งทางเราไม่แน่ใจว่าผู้ป่วยจะกักตัวเองในบ้านตามทฤษฎีได้หรือไม่ คือ การแยกกักตัว แยกห้องน้ำ กรณีที่ อ.ชะอวดนั้นมีการดูแลจนครบ 30 วันจึงปล่อยกลับบ้าน
นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า การตรวจสอบเชื้อของผู้ป่วยที่อยู่ รพ.นั้นให้เป็นไปตามการวินิจฉัยของแพทย์ ไม่ใช่ว่าจังหวัดนครศรีธรรมราชจะมีนโยบายให้ผู้ป่วยต้องอยู่ รพ.ครบ 30 วัน คือ ต้องมีการเก็บตัวอย่างเชื้อหากวันที่ 14 เก็บตัวอย่างแล้วไม่พบเชื้อก็สามารถปล่อยให้กลับบ้านได้ และเข้าสู่กระบวนการกักตัวหลังกลับบ้านไปตามคำสั่งแพทย์
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวอีกว่า กรณีมาตรการด้านต่างๆ ที่จังหวัดออกคำสั่งภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น หลังจากนี้จะต้องติดตามสถานการณ์ โดยในวันที่ 29 เมษายน จะมีการประชุมอีกครั้งแล้วจะรายงานต่อคณะรัฐมนตรี หลังจากนั้นจะต้องเป็นไปตามมติ ครม.
สายลุยเตรียมพร้อมก่อนไป “เดินป่า” อ่านจบรู้เรื่อง