“คนที่เก่งจริง คือ ตนรู้ว่าชนะได้ แต่ไม่จำเป็นต้องชนะ มีใจกว้างพอที่จะให้..บางครั้งต้องยอมแพ้” การใช้ชีวิต ก็เหมือนกัน… “รู้ ไม่จำเป็นต้องพูด ไม่พูด ใช่ว่าจะไม่รู้”
จิตของมนุษย์นั้นไซร้ยากแท้หยั่งถึง ไม่มีใครสามารถทราบจิตของคนอื่นได้จริงๆ มีแต่ตนเองเท่านั้น ที่จะรู้สภาพจิตของตนเอง
สมัยก่อน มีแม่ทัพคนหนึ่งเล่นหมากล้อมเก่งมาก ไม่ค่อยมีคนเล่นชนะได้ วันหนึ่ง แม่ทัพออกรบ ผ่านหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เห็นบ้านเล็กๆ หลังหนึ่ง มีป้ายติดว่า เล่นหมากล้อมอันดับ ๑ ของประเทศ
แม่ทัพไม่เชื่อ จึงเข้าไปหาเจ้าของบ้านและเล่นด้วย ปรากฎว่า เจ้าของบ้านแพ้ทั้ง ๓ กระดาน แม่ทัพหัวเราะอย่างพอใจ แล้วบอกว่า “แกเอาป้ายลงได้แล้ว” แล้วแม่ทัพก็ไปออกรบด้วยความดีใจ
ไม่นาน แม่ทัพรบชนะกลับมา ผ่านมาที่เดิม ก็ยังเห็นป้ายแขวนอยู่ที่บ้านหลังเดิม แม่ทัพจึงเข้าไปหาเจ้าของบ้าน เจ้าของบ้านจึงขอท้าดวลกับแม่ทัพอีก
ปรากฎว่าครั้งนี้ แม่ทัพแพ้ทั้ง ๓ กระดาน แม่ทัพประหลาดใจมาก ถามเจ้าของบ้านว่าเพราะอะไร เจ้าของบ้านตอบว่า
“ครั้งก่อน ท่านมีภาระกิจ ออกรบ ข้าน้อยจะไปลบเหลี่ยม ทำให้ท่านหมดขวัญกำลังใจไม่ได้ แต่ครั้งนี้ ท่านชนะกลับมา ข้าน้อยก็ไม่ต้องออมมือแล้วครับ”
คนที่เก่งจริงในโลกนี้ คือคนชนะได้ แต่ไม่จำเป็นต้องชนะ มีใจกว้างขวางพอที่จะให้ การใช้ชีวิตก็เหมือนกัน
รู้ ไม่จำเป็นต้องพูด ไม่พูด ใช่ว่าจะไม่รู้ หากคุณพูดในสิ่งที่คุณรู้ แต่เป็นเรื่องที่เจ้าของเรื่องไม่อยากให้รู้ หรือไม่คิดว่าคนอื่นจะรู้ คุณไม่ได้มิตร แต่ได้ศัตรู
คนทุกคนบอกว่ารับความจริงได้ ต้องการให้คุณพูดความจริง แต่พอคุณพูดแล้ว ใช่ว่าจะรับได้ทุกคน อาจจะโกรธคุณอีกต่างหาก ที่เสือกรู้ความจริง
ที่บอกให้คุณพูดความจริง เขาแค่ต้องการจะรู้ว่าคุณรู้เท่าไหน แต่ไม่ได้หมายความว่ารับความจริงได้ เมื่อรู้ว่าคุณรู้เยอะมาก เยอะกว่าที่เขาคาดไว้ เขาย่อมโกรธคุณ เพราะคุณ “รู้ทัน”
สายลุยเตรียมพร้อมก่อนไป “เดินป่า” อ่านจบรู้เรื่อง