หอพระอิศวรและเสาชิงช้า นครศรีธรรมราช
หอพระอิศวร เป็นเทวสถานในศาสนาพราหมณ์ ลัทธิไศวนิกาย บูชาพระอิศวรเป็นใหญ่กว่าเทพเจ้าองค์อื่นๆ เชื่อกันว่าหอพระอิศวรในสมัยแรกเริ่มคงอยู่ที่ฐานพระสยมภูวนารถ ในเขตตลาดท่าชี ต่อมาในสมัยกรุงศรีอยุธยาจึงได้ย้ายมาตั้ง ณ สถานที่ในปัจจุบัน และครั้งนั้นคงสร้างหอพระนารายณ์ เสาชิงช้า และโบสถ์พราหมณ์ขึ้นพร้อมกันด้วย
ตั้งอยู่ริมถนนราชดำเนิน ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ตรงข้ามหอพระนารายณ์ หอพระอิศวรเป็นที่ประดิษฐานรูปเคารพพระอิศวร อันเป็นเทพองค์หนึ่งของพราหมณ์ ใช้เป็นเทวสถานสำหรับประกอบพิธีกรรมของศาสนาพราหมณ์ สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยอยุธยา แต่ของเดิมชำรุดไปหมดแล้วอาคารที่ปรากฏทุกวันนี้ เป็นอาคารที่กรมศิลปากรบูรณะขึ้นใหม่ เมื่อ พ.ศ. 2509 ทางด้านเหนือของหอพระอิศวรเป็นวัดเสมาเมือง ทางด้านใต้เป็นเสาชิงช้า ซึ่งสร้างขึ้นใหม่แทนของเก่าซึ่งใช้ในพิธียัมปวาย และตรีปวาย ของพราหมณ์ เมืองนครศรีธรรมราช
หอพระอิศวร – ประดิษฐานศิวลึงค์ ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของพระอิศวรและฐานโยนิ รวมทั้งเทวรูปสำริดอีกหลายองค์
อาทิ เทวรูปศิวนาฎราช พระอุมาและพระพิฆเนศ ประดิษฐานศิวลึงค์ ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของพระอิศวรและฐานโยนิ
รวมทั้งเทวรูปสำริดอีกหลายองค์ อาทิ เทวรูปศิวนาฎราช พระอุมาและพระพิฆเนศ)
โดยจำลองแบบมาจากเสาชิงช้าในกรุงเทพฯ แต่มีขนาดเล็กกว่า และ เพิ่งเลิกไปเมื่อ พ.ศ. 2468 เดิมหอพระอิศวรเป็นที่ประดิษฐานเทวรูป พระอิศวรหลายองค์ เป็นปางหรือภาคต่างๆ กัน ซึ่งเป็นเทพสูงสุดตามความเชื่อของพราหณ์ลัทธิไศวนิกาย แต่เดิมใกล้ๆ กับเสาชิงช้า มีโบสถ์พราหมณ์อยู่หลังหนึ่ง
แต่ปัจจุบันผุพังลงจนไม่เหลือซากแล้ว ภายในบริเวณโบสถ์เป็นแหล่งที่พบชิ้นส่วนเทวรูปที่หล่อด้วยสำริดอายุระหว่างพุทธศตวรรษที่ 18 – 25 หลายองค์ด้วยกัน อาทิ พระพิฆเนศวร พระศิวะนาฏราช พระอุมา และรูปหงส์ นับว่าเก่าแก่มีค่ายิ่งนัก ซี่งต่อมาได้ย้ายมาไว้ในหอพระอิศวรชั่วคราว และจากนั้นทางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเกรงว่าจะสูญหายไป จึงได้ย้ายมาเก็บรักษาไว้ในห้องจัดแสดงของทางพิพิธภัณฑ์ โดยหล่อรูปจำลองไว้แทนที่ในหอพระอิศวร
สายลุยเตรียมพร้อมก่อนไป “เดินป่า” อ่านจบรู้เรื่อง