จ.นครศรีธรรมราช – เมื่อช่วงเย็น วันที่ 24 มี.ค.2564 ที่บริเวณป้ายรถเมล์สี่แยกหัวถนน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ด้านหน้าห้างทองบูรพา เกิดเหตุการณ์ชุลมุนต่อหน้าผู้คนที่กำลังเดินไปมา และนักเรียนจำนวนมากที่กำลังยืนรอรถโดยสารกลับบ้าน เมื่อคนขับรถสองแถวและคนขับรถเมล์ สายนครฯ-ทุ่งสง สายเดียวกัน เกิดทะเลาะวิวาทกันขณะวิ่งรถรับ-ส่งผู้โดยสาร และยิ่งสร้างความตื่นตระหนก
เมื่อนายสมชาย แก้วโสภาค หรือนายหัวดิก อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/2 ม.1 ต.นาพรุ อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช คนขับรถเมล์ นำอาวุธปืนขนาด .38 มม. ชนิดลูกโม่ ติดตัวมาด้วย นายปรารถนา และนายนาวี ทองมณี สองพี่น้องคนขับรถสองแถว ที่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันมาก่อน
โดยในช่วงเกิดเหตุ นายปราถนาพร้อมด้วยน้องชาย คือ นายนาวี ทองมณี อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 ม.2 ต.ทุ่งโพธิ์ อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช และพลเมืองดี ช่วยกันแย่งปืน และจับมัดตัวนายสมชาย ไว้ได้ ก่อนที่นายสมชาย จะขับรถเมล์ออกไปส่ง ผู้โดยสาร
ต่อมา ตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และเก็บหลักฐานอาวุธปืน พร้อมวิทยุให้ ตร.ชุดสายตรวจ ติดตามตัวนายสมชาย ซึ่งขับรถเมล์มุ่งหน้าไปทาง อ.ทุ่งสง ไม่นานนัก ร.ต.อ.ไพศาล คงทอง รอง สวป.สภ.พระพรหม พร้อมด้วย ด.ต.ภาณุวัฒน์ เพชรมณี ผญ.หมู่ (ป) สภ.พรพรหม สามารถควบคุมตัวนายสมชายไว้ได้ บนถนนห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 10 กม. ทางไปแยกนาพรุ อ.พระพรหม และคุมตัวนายสมชาย แก้วโสภาค ส่ง พนง.สส.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช
นายนาวี ทองมณี ผู้ที่เข้าไปแย่งปืนจากนายสมชาย ให้การว่า ต้นเหตุเกิดขึ้นจากนายสมชาย มีปัญหากับพี่ชายของตนเอง คือ นายปรารถนา ซึ่งต่างก็เป็นคนขับรถโดยสารสายเดียวกัน แต่เนื่องด้วยนายสมชาย เคยขับรถปาดหน้านายปรารถนา และล่าสุด นายสมชายประกาศว่าจะไปตบนายหัวรถสองแถว
กระทั่งมาพบกันด้วยความบังเอิญตรงจุดเกิดเหตุ และได้พูดคุยเจรจากัน แต่นายสมชาย กลับต่อว่าด้วยคำหยาบคายใส่ตนเอง จึงบอกให้นายสมชายลงมาจากรถ แต่นายสมชายไม่ยอมลงมา กลับคว้าอาวุธปืนที่อยู่ข้างตัว ส่องเล็งมาหาตนเอง จึงใช้มือคว้าปืนเอาไว้ และใช้นิ้วสอดเข้าไปอยู่ในไกปืน ทำให้นายสมชายไม่สามารถยิงปืนได้ ขณะที่นายปรารถนา พี่ชาย และชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ต่างพากันขึ้นไปบนรถรุมมัดตัวนายสมชายเอาไว้ จนสามารถแย่งชิงปืนมาได้ในที่สุด
เบื้องต้น นายสมชาย ถูกแจ้งข้อกล่าวหา มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนเรื่องเหตุทะเลาะวิวาทกันนั้น ต้องรอให้ พนง.สส. สอบปากคำคู่กรณีทั้งสอง ถึงเหตุที่มาที่ไปให้แล้วเสร็จก่อนแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป
ทั้งนี้ นายสมชาย เจ้าของรถเมล์ ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้เคยมีปัญหาขุ่นเคืองบาดหมางใจกันมาก่อน และถูกหาเรื่องมาโดยตลอด สาเหตุที่ต้องพกพาอาวุธปืน ก็เพราะกลัวอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ช่วงขณะเกิดเหตุ ตนเองจอดรถรอผู้โดยสารอยู่ที่ป้ายรถเมล์ดังกล่าว แต่ทางคู่กรณีซึ่งมาด้วยกัน 3 คน พร้อมอาวุธมีด มารุมทำร้ายตนเองจนได้รับบาดเจ็บ จึงจำเป็นต้องชักอาวุธปืนออกมา หวังเพื่อที่จะข่มขู่เท่านั้น ไม่ได้หวังที่จะต่อสู้ หากต่อสู้คงยิงปืนออกไปแล้ว
ขณะที่ภรรยาของนายสมชาย พร้อมด้วยลูกสาวและญาติ ตามมาที่โรงพัก เพื่อขอประกันตัวนายสมชาย พร้อมส่งคลิปวิดีโอขณะเกิดเหตุชุลมุนบนรถเมล์ให้ผู้สื่อข่าวไว้เป็นหลักฐานว่า นายสมชายถูกลุ่มชายฉกรรจ์รุมทำร้าย ซึ่งเป็นเหตุให้นายสมชายต้องชักอาวุธปืนออกมาเพื่อป้องกันตัว ตามที่นายสมชายให้ข้อมูลไว้ในเบื้องต้น
อย่างไรก็ตาม ขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังสอบถามเรื่องราวสาเหตุที่มาที่ไปจากนายสมชายอยู่นั้น เป็นช่วงเดียวกันกับที่นายนาวี กำลังเดินขึ้นมาพบตำรวจเพื่อให้ปากคำพอดี เมื่อทั้งคู่ได้พบกันอีก ก็เกิดมีปากเสียงชี้หน้าต่อว่ากันเล็กน้อย ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะแยกตัวทั้งคู่ออกจากกัน หวุดหวิดที่จะเกิดเรื่องขึ้นอีกครั้งบนโรงพักต่อหน้าที่ตำรวจ
นครฯ – รถเมล์หัวร้อน มีปากเสียงกับสองแถว ชักปืนจะยิงใส่ ตร.ตามรวบไว้ได้ (มีคลิป)
สายลุยเตรียมพร้อมก่อนไป “เดินป่า” อ่านจบรู้เรื่อง