กรมควบคุมโรค เผยข้อมูล 5 จังหวัดพบผู้ป่วยไวรัสอาร์เอสวี (RSV) สูงที่สุดใน ปี 2560-2563 พร้อมแนะผู้ปกครองเฝ้าระวังเป็นพิเศษ แม้อาการโรคจะมีอาการคล้ายไข้หวัดธรรมดา แต่ยังไม่มีวัคซีนและต้องระวังอาการแทรกซ้อน
วันนี้ (9 พ.ย.2563) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาการอธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า สถานการณ์โรคไวรัสอาร์เอสวี (RSV) ที่กำลังระบาดในกลุ่มเด็กเล็กในขณะนี้ จากข้อมูลการเฝ้าระวังเหตุการณ์ของกรมควบคุมโรค ในช่วงตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย.2563 ถึงปัจจุบัน พบรายงานผู้ติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัสอาร์เอสวีในหลายพื้นที่ของไทย ได้แก่ อุดรธานี อุบลราชธานี และชัยภูมิ รวมถึงพบผู้เสียชีวิต 1 คน เป็นเด็กหญิงอายุ 10 เดือน ที่ จ.ชัยภูมิ
ขณะที่คลังข้อมูลสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ปี 2560-2563 ระบุว่า มักพบผู้ป่วยโรคนี้ในช่วงหน้าฝนและหน้าหนาว ตั้งแต่เดือน ส.ค.- พ.ย.ของทุกปี จังหวัดที่พบจำนวนผู้ป่วยสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ นครราชสีมา สุรินทร์ ขอนแก่น มหาสารคาม และปัตตานี
พบการป่วยโรคไข้หวัดที่มีสาเหตุจากไวรัสอาร์เอสวี เฉลี่ยร้อยละ 30 ต่อปี และในช่วงฤดูหนาวจะมีการระบาดไข้หวัดมากขึ้น เมื่อเทียบสถานการณ์เดือน พ.ย.ในปี 2562 และปี 2563 พบว่าปีนี้ จำนวนเด็กที่เป็นไข้หวัดไม่เพิ่มขึ้น
สำหรับโรคไวรัสอาร์เอสวี เป็นไวรัสชนิดหนึ่ง ที่ก่อให้เกิดโรคไข้หวัดตามฤดู มักเกิดในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ อาการของโรคจะคล้ายไข้หวัดทั่วไป คือ มีไข้ ไอ มีน้ำมูก หรือมีภาวะแทรกซ้อนในบางราย เช่น ปอดอักเสบ หูอักเสบ และภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงที่สุด คือ ปอดบวม อัตราการเสียชีวิตไม่สูง เมื่อเทียบกับการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่
ส่วนการรักษาไม่แตกต่างจากไข้หวัดทั่วไป เนื่องจากเชื้อนี้ไม่มียาต้านไวรัสและวัคซีน ใช้การรักษาตามอาการและระวังอาการแทรกซ้อน คำแนะนำ สำหรับการดูแลเด็กเล็กที่ต่ำกว่า 5 ขวบ โดยจะต้องระวังมากขึ้นในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ คือ ห้ามพาเด็กไปคลุกคลีกับผู้ป่วย ไม่เข้าที่แออัดโดยไม่จำเป็น และหากพบว่าเด็กมีอาการป่วยไข้หวัด ห้ามพาไปที่ศูนย์เด็กเล็ก เพราะจะเกิดการแพร่เชื้อของโรคต่อ
ส่วนผู้ดูแลศูนย์เด็กเล็ก หรือสวนสนุกที่มีเด็กไป จะต้องเช็ดทำความสะอาดพื้นที่บ่อยๆ และหากพบอาการไข้ ไอ น้ำมูก จะต้องรีบพบแพทย์ ทันที
“กรมควบคุมโรค” เปิด 5 จังหวัด พบผู้ป่วยไวรัส RSV มากสุด
ThaiPBS
สายลุยเตรียมพร้อมก่อนไป “เดินป่า” อ่านจบรู้เรื่อง