เปิดกรุหนังสือบุดโบราณส่งคืนจากหลายจังหวัดอีกกว่า 100 เล่ม พบเล่มสำคัญ “ตำรายันต์” ของเจ้าพระยานครน้อย
ที่ห้องประชุมพุทธสมาคม วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช นายสุรเชษฐ์ แก้วสกุลผู้เชี่ยวชาญหนังสือบุดโบราณ ได้นำเอาหนังสือบุดดำซึ่งภายในเป็นตำรายันต์ชั้นสูงชนิดต่างๆ โดยเชื่อว่าเป็นตำรายันต์ของเจ้าพระยานครน้อย เจ้าเมืองนครศรีธรรมราชเมื่อช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ มาจัดแสดงหลังจากได้ฟื้นฟูหนังสือบุดเล่มนี้จากการจมอยู่ในน้ำเน่าเสียเนื่องจาก นายฐิติพงศ์ อายุ 26 ปี ผู้ต้องหารายสำคัญได้นำเอาไปโยนทิ้งในคูน้ำ หลังจากที่ถูกจับกุมได้เจ้าหน้าที่ได้เค้นข้อมูลจนยอมรับว่าได้นำไปทิ้งทำลายหลักฐาน โดยนายฐิติพงศ์ ได้ประกาศขายหนังสือบุดเล่มนี้ในราคา 4 แสนบาท
เนื่องจากเชื่อว่าเป็นตำรายันต์ที่เจ้าพระยานครน้อยใช้ในพิธีกรรมสร้างยันต์หรือสักยันต์ และฝีมือในการเขียนตำรายันต์นั้นเชื่อว่าเป็นฝีมือครูหมอเลขยันต์ในราชสำนักนครศรีธรรมราช เมื่อกว่า 200 ปีก่อน เนื่องจากมีลักษณะศิลปะการเขียนที่ละเอียดอ่อนงดงามกว่าตำรายันต์ทั่วไปนอกจากนั้น พระสงฆ์ผู้ประสานงานศูนย์รับบิณฑบาตคืนหนังสือบุดสมุดข่อยนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยพลตำรวจตรีสนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช นายสมปอง รักษาธรรม รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราชเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ได้ร่วมกันเปิดกล่องพัสดุที่ถูกส่งมาจากจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดระยอง จังหวัดขอนแก่น และกรุงเทพมหานคร
ผู้ส่งได้ซื้อโดยไม่ทราบว่าเป็นหนังสือบุดที่ได้จากการโจรกรรม จึงแสดงเจตนาส่งคืนโดยไม่มีเงื่อนไข ในขณะที่ศูนย์บิณฑบาตยืนยันว่าหากส่งคืนผ่านศูนย์จะไม่มีการขยายผลใดๆ โดยการส่งคืนรอบนี้พบว่าเจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างการตรวจนับจำนวนซึ่งพบว่ามีมากกว่า 100 เล่ม สำหรับก่อนหน้านี้มีจำนวนที่ส่งคืนเป็นของกลางแล้วจำนวน 148 เล่ม ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้คัดกรองยืนยันว่าอยู่ในสารบบทะเบียนของมหาวิทยาลัยจำนวน 78 เล่มที่เหลืออยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ส่วนลอตล่าสุดนั้นมีทั้งบุดดำ บุดขาว และบุดตีนช้าง นอกจากนั้นยังมีดาบโบราณส่งคืนมาอีก 1 เล่มจากทั้งหมดสูญหายในส่วนวัตถุโบราณประเภทอาวุธโบราณ และผ้าโบราณรวม 29 รายการ ส่วนหนังสือบุดที่สูญหายนั้นได้ยืนยันทางทะเบียนทั้งหมดจำนวน 309 เล่ม
พลตำรวจตรีสนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่าการจับกุมผู้ต้องหาที่ได้แล้วจำนวน 2 คนคือนายฐิติพงศ์ ผู้ที่โพสขายอย่างกว้างขวาง และนายอำนวย เจ้าหน้าที่โสต ผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ในศูนย์ศิลปวัฒนธรรม การสอบสวนของเจ้าหน้าที่ไม่ได้หยุดอยู่แค่ทั้งสองรายนี้ยังอยู่ในระหว่างการสอบสวนขยายผลว่ายังมีใครอีกหรือไม่ที่โจรกรรมหรือนำไปขายอีกหรือไม่ ถ้าพยานหลักฐานพาดพิงจะออกหมายจับกุมกันต่อไป
ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ยังให้ข้อมูลการสอบสวนอีกว่านายฐิติพงศ์ ได้รับสารภาพว่าได้รับซื้อหนังสือบุดจากนายอำนวย รวม 9 ครั้ง ต่างเวลาโดยมีทั้งนำรถยนต์ของทางราชการ รถจักรยานยนต์ไปส่งให้นายฐิติพงศ์ตามจุดนัดหมาย ส่วนนายอำนวยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ถือว่าเป็นอุปสรรคเนื่องจากการรวบรวมพยานหลักฐานแน่นหนามากจึงเสนอศาลในการอนุมัติหมายจับกุมได้
สายลุยเตรียมพร้อมก่อนไป “เดินป่า” อ่านจบรู้เรื่อง