นครแห่งอารยธรรม

‘สิชล’ มีอะไรให้เที่ยวอีกตั้งเยอะ โดยเฉพาะคนที่รักความสงบ ง่ายๆ แต่ได้ใจ

3579

views

วิวสวย น้ำใส วิถีชีวิตดั้งเดิมยังมีให้เห็น สิ่งเหล่านี้กลายเป็นความใฝ่ฝันของนักท่องเที่ยวที่ลงมานครศรีธรรมราชไปแล้ว…

…แม้จะเป็นจังหวัดฝั่งอ่าวไทย แต่ที่นครฯ ขึ้นชื่อลือชาว่าทะเลสวยไม่แพ้อันดามัน ที่สำคัญเที่ยวได้ไม่แพงเหมือนเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ เมื่อนครศรีฯ ดี๊ดี ขนาดนี้ จะพลาดได้อย่างไร ขอติดสอยห้อยตาม สายการบินนกแอร์ที่จับมือกับ ททท.นครศรีธรรมราช พาไปสัมผัสเมืองเล็กน่ารักนามว่า สิชล อำเภอทางตอนเหนือของจังหวัดนครศรีธรรมราช

เหมือนเดิมตามสไตล์นกแอร์ สายการบินเป็นมิตรกับนักปั่นที่สุด หลังจากส่งจักรยานซึ่งปล่อยลมยางและแพ็คใส่กระเป๋าบินข้ามฟ้ามาถึงนครศรีฯ ความสนุกก็เริ่มต้นขึ้น เพราะที่สิชลมีเส้นทางครบเครื่องทีเดียว ไม่ว่าจะทางราบ ทางเขา ในเมือง เข้าสวน เข้าป่า หรือเลาะเลียบชายทะเล ส่วนเส้นทางที่นับว่าวัดกายวัดใจขาแรงคือการไปพิชิตเขาพลายดำ เพื่อได้ชื่อว่าเป็น ‘ปีศาจเขาพลายดำ’ มาทั้งทีต้องลอง

จาก สิชล คาบาน่า ซึ่งเป็นที่พักของพวกเรา ปั่นอย่างช้าๆ มาตามถนนเรียบกริบ แต่ด้วยภูมิประเทศเป็นเนินเขาสลับไปมา จึงมีเนินให้ได้ออกแรงกัน ซึ่งทริปนี้ได้โอกาสลองล้อใหม่เอี่ยมของ VISP Builder รุ่น Top Series ปี 2018 ขนาดขอบล้อ 38 mm. ซึ่งเป็นขนาดกลาง ไม่สูงหรือเตี้ยเกินไป เมื่อต้องเจอเส้นทางที่ผสมผสานกันทั้งเขาและราบนับว่าเข้าทาง

เริ่มต้นวัดแรง วัดใจ และลองของ เพราะเพียงแป๊บเดียวก็เจอทางขึ้นเขาพลายดำ เป็นเนินซึมที่ช่วยวอร์มได้อย่างดี ใช้เวลาไม่นานก็ผ่านไปได้ สังเกตได้ว่าสองข้างทางส่วนมากคือต้นไม้เขียวครึ้ม บรรยากาศดีช่วยเพิ่มแรงใจได้ไม่น้อย

หลังจากนั้นไม่นานก็มาถึงจุดที่เรียกว่า หินงามรางทัด แต่อยู่ริมถนนไม่เห็นวิวแน่นอน ต้องไหลลงไปตามทางเล็กๆ ที่ชันและมีดินปนหินต้องระมัดระวัง ทีแรกก็แอบหวั่นใจว่าเอาล้อคาร์บอนมาจะเบรกอยู่หรือเปล่า และเจอทางขรุขระจะเสียหายหรือไม่ ปรากฏว่าปลอดภัยหายห่วง เพราะขอบล้อที่เรียกว่า UD & 3K TWILL ใช้เทคโนโลยี High TG (High Temperature Glasses) นอกจากจะช่วยให้ขอบล้อแข็ง (Stiff) มากขึ้น ยังช่วยให้ขอบเบรกทนความร้อนจากการเบรกได้มากถึง 250 องศาเซลเซียสทีเดียว ไม่มีปัญหาขอบไหม้หรือบวมเมื่อลงทางชันที่ต้องเบรกบ่อยๆ

พอมาถึงจุดชมวิวหินงามรางทัด นับว่าคุ้มค่าที่ประคองตัวลงมาถึงนี่ เพราะแท่นหินปูนที่ทอดยาวไปในทะเล เบื้องหน้าและแวดล้อมเป็นอ่าว น้ำทะเลใสๆ กับท้องฟ้าสีสดประกอบกันบนเส้นขอบฟ้าเข้ากันดี หากสังเกตดีๆ จะเห็นเส้นสีขาวขีดยาวอยู่ทั่วแผ่นหิน เหมือนมีคนนำ ‘รางทัด’ เครื่องมือก่อสร้างมาตีเส้นไว้ แต่นี่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ

สำหรับบางคน นี่คือความสบายใจสุดท้ายของการปั่น เพราะหลังจากนี้คือของจริง!

จากหินงามรางทัด เส้นทางเริ่มไม่หลากหลายนัก เห็นจะมีแค่เนินซึมกับเนินชันเท่านั้น แต่มีขึ้นย่อมมีลง หากพ้นแต่ละเนินได้ย่อมได้พักแรงตอนลงจากเนินอยู่บ้าง ความท้าทายจะมาเริ่มตรงนี้ (บางคนก็จบตรงนี้) ตรงที่เนินขึ้นสู่ศาลเจ้าพ่อเขาพลายดำ เพราะชันมากขึ้น ถ้าแรงมี รู้เทคนิค ก็ขึ้นไหว ตรงทางชันแบบนี้ได้ทดสอบความเบา ความแข็ง และความลื่นของล้อและดุม เพราะนี่คือจุดที่ล้อยี่ห้อนี้เปลี่ยนใหม่หมดให้สมกับเป็นล้อปี 2018

ผลลัพธ์คือ แม้จะไม่ใช่ล้อขอบเตี้ยที่ขึ้นเขาดีสุด แต่ความแข็งของล้อช่วยให้เวลายืนโยกหรือกดบันไดแรงๆ ไม่เกิดอาการย้วยมากนัก เพราะถ้าล้อไม่แข็งพอ อาการย้วยจะกินแรงที่กระทำไปที่ล้ออย่างสูญเปล่า เท่านั้นไม่พอ การเปลี่ยนมาใช้ดุม DT Swiss 240s (STRAIGHT PULL) หากไม่นับตอนสปริ้นท์เร่งความเร็ว ความไหลลื่นของดุมช่วยได้มากเวลาขึ้นเขาอันโหดร้าย เพราะแต่ละครั้งที่ล้อหมุน ดุมหมุน เมื่อไม่มีความฝืดเป็นอุปสรรค เราจึงไม่เสียแรงไปเปล่าๆ

ใครยังไหวควรไปต่อ เพราะถ้าขึ้นไปถึงยอดเขาพลายดำได้สำเร็จ จะได้ชื่อว่าเป็นปีศาจเขาพลายดำ ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็มีปีศาจหน้าเก่าหน้าใหม่แวะเวียนมาพิชิตที่นี่อยู่บ่อยๆ

ถึงจะเหนื่อยแต่บอกได้เลยว่าคุ้มค่า เพราะมีวิวทะเลกว้างไกลที่มองได้จากมุมสูง ซึ่งทางสวยๆ แบบนี้ยังพาเราไปต่อที่หาดสิชล ซึ่งละแวกเดียวกันมีอีกหลายจุดที่ปั่นไปแวะได้ เช่น อนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ที่ใหญ่ที่สุดของภาคใต้ อยู่ตรงปากน้ำสิชล หันหน้าสู่ทะเล เชื่อว่าคอยคุ้มครองให้ชาวเรือและชาวสิชลปลอดภัย และ ศาลเจ้าพ่อตาปะขาว เป็นศาลเจ้าพ่อแห่งแรกของปากน้ำสิชล เป็นที่เคารพนับถือของชาวสิชล ไม่ว่าเรื่องอะไรชาวสิชลก็จะนิยมมาขอจากท่าน นอกจากนี้ ที่นี่ก็ยังเป็นจุดชมวิวปากน้ำสิชลที่สวยงามมากอีกด้วย

สำหรับคนที่หลงใหลวิถีชีวิตยามเช้า และอาจจะได้กุ้งหอยปูปลาสดติดไม้ติดมือกลับไปทำกินกัน ก็แนะนำให้ปั่นไปที่ หาดปลายทอน เป็นตลาดเช้าที่ละลานตาด้วยอาหารทะเลสดๆ หากไปเช้าๆ จะได้เห็นเรือประมงขนาดเล็กของชาวบ้านมาเทียบท่านำอาหารทะเลขึ้นฝั่งด้วย และที่ต้องลองชิม ขนมครกโบราณ รสชาติหวานน้อยจนเกือบไม่หวาน กินกับน้ำตาลทราย และจะได้บรรยากาศมากถ้าได้นั่งคุยกับคุณป้าแม่ค้าขนมครก

ส่วนคนที่รักธรรมชาติ น้ำตกสี่ขีด เป็นจุดหมายที่นักปั่นน่าลองปั่นเข้าไปจอด แล้วลงเล่นน้ำเย็นฉ่ำ แช่น้ำไปฟังเสียงนกไป ชมแมกไม้เขียวขจี สูดออกซิเจน ที่นี่เป็นน้ำตกหินปูนสูงสวยงามแห่งนี้ (หากเดินไปชั้นบน) โดดเด่นที่สายน้ำที่ไหลลงมาตามผาหินปูนนั้นต้องผ่านโขดหิน 4 ลูก ม่านน้ำที่ไหลลงสู่แอ่งน้ำด้านล่างสวยงามมาก