จ.นครศรีธรรมราช – ประชาชนจำนวนมาก มุ่งหน้าไปที่วัดเจดีย์ไอ้ไข่ ต.ฉลอง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช อย่างเนืองแน่นหลังจากที่เป็นข่าวดังทางวัดได้ประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่าอนุญาตเฉพาะผู้มาขอพรและแก้บนเท่านั้นยังไม่เปิดเป็นทางการต้องรอมติจากสำนักพระพุทธศาสนาซึ่งทางวัดเจดีย์มีมาตรการป้องกันที่เข้มข้น คัดกรอง วัดไข้ สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือตามขั้นตอนทุกประการ
กรณีมีกระแสข่าวว่า “ฮ.สนง.ตำรวจแห่งชาติ ลงจอดในวัดเจดีย์ไอ้ไข่ ต.ฉลอง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เพื่อแก้บนไอ้ไข่วัดเจดีย์ จุดประทัด 3 ล้านนัด จนมีคนนำไปโพสต์ในเฟสบุ๊ค และมีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่าไม่เหมาะสมที่นำ ฮ.ของราชการมาใช้ส่วนตัว
ขณะที่ทางวัดได้ออกมาชี้แจงว่า มาติดตามการดูแลบริการนักท่องเที่ยว เพราะวัดเจดีย์ มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ก่อนตะมีคำสั่งย้าย พล.ต.ต.กฤษศักดิ์ สงมูลนาค ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว 3 เข้าประจำศูนย์ปฏิบัติการกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวนั้น
นายศุภชัย โจมฤทธิ์ ตัวแทนคณะกรรมการวัดเจดีย์ไอ้ไข่ อ.สิชล เปิดเผยผู้สื่อข่าวว่า กรณีที่เป็นข่าวเกี่ยวกับ ฮ.ของผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว 3 มาจอดในวัดเจดีย์เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.63 นั้น เป็นการมาเพื่อตรวจสอบและชี้แนะแนวทางรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามายังวัดเจดีย์หลัง
สถานการณ์โควิดคลี่คลายซึ่งทางคณะได้มีการประสานมายังวัดตลอด สอบถามข่าวคราวเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวตลอด และวันนั้นท่านมีภารกิจที่ อ.ท่าศาลา และประสานมายังวัดว่าจะเข้ามาดูการรองรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาก็ได้ถามว่าทางวัดมีลานสำหรับ ฮ.ลงได้หรือไม่
“เพราะในอนาคตหากมีนักท่องเที่ยวหรือ วีไอพี เจ็บป่วยต้องเคลื่อนย้ายด่วนหากทีลานจอดฮ. ได้ก็จะเป็นสากลยิ่งขึ้น ซึ่งทางวัดได้บอกไปว่ามีและก่อนคณะจะมาก็มีการเคลียสถานที่ก่อน 3 ชม.ที่ ฮ.จะลงโดยเป็นสถานที่ที่ไม่กระทบกับวัดและคนที่มาในวันนั้น
เมื่อคณะมาถึงทางวัดได้มีการรายงานการปฏิบัติตามแนวทางอ้างอิงที่รัฐกำหนดไม่ว่าจะเป็นจุดคัดกรอง,การวัดอุณหภูมิ,ล้างมือและรักษาระยะห่าง โดยวันนั้นท่านผู้การฯท่องเที่ยวได้ชี้แนะให้เพิ่มช่องทางเข้าออกและแยกช่องคนไทยกับต่างชาติ ซึ่งท่านให้คำแนะนำที่ดีแก่ทางวัดเพราะมองว่าในอนาคตจะมีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติเข้ามามากขึ้น”
ส่วนกรณีที่มีสื่อไปโยงว่ามาแก้บนนั้น ไม่เกี่ยวกันเลยท่านมาปฏิบัติหน้าที่จริงๆไม่ได้มาแก้บ่นจุดปะทัด3ล้านนัดตามที่เป็นข่าว การจุดประทัดแก้บนในวันนั้น 3 ล้านนัด เป็นของชาวต่างชาติที่ได้ประสานมายังร้านบ่าวเอ ประทัดซึ่งขายของแก้บนอยู่ข้างวัดโดยได้มีการจุดประทัดเสร็จไปก่อน 20 นาที
ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับคณะของผู้การท่องเที่ยวแต่อย่างใดเป็นการนำมาโยงกัน โดยไม่มีมูลความจริง ส่วนในระยะต่อไปหากจะมีหน่วยงานหรือองค์ใดจะประสานนำ ฮ.มาลงนั้นเราก็ไม่ได้ปิดกั้นแต่จะมีหารือ ดูเป็นกรณีๆ ไป นายศุภชัยฯ กล่าว.
สายลุยเตรียมพร้อมก่อนไป “เดินป่า” อ่านจบรู้เรื่อง